ในวิชาทางจิตวิทยาสังคมที่ดิฉันสอนในเทอมที่เพิ่งผ่านพ้นไป ได้มอบหมายให้นิสิตหาบทความทางจิตวิทยาในหัวข้อที่ตนสนใจมาอ่าน แล้วอภิปรายเชื่อมโยงกับเรื่องราวในชีวิตของตนเอง เพื่อให้นิสิตได้หัดค้นคว้าและเห็นว่า “จิตวิทยาสังคมมีประโยชน์นะจ๊ะ”
ปรากฏว่า นิสิตหลายคนส่งงานมาในหัวข้อ การเห็นคุณค่าของตนเอง หรือ self-esteem ค่ะ ส่วนใหญ่ทำมาในแนว “ทำอย่างไรดี รู้สึกไม่ภูมิใจในตัวเองเท่าไร” “อยากเพิ่ม self-esteem”
หนึ่งในบทความที่นิสิตอ่านแล้วส่งมาก็คือหน้าเว็บไซต์ในบรรณานุกรมค่ะ ได้บอกวิธีง่าย ๆ ในการเพิ่มความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเองของคนเรา เมื่อนำมาผนวกกับงานวิจัยสมัยใหม่อื่นๆ สรุปเป็นไอเดียจำง่าย ๆ และทำก็ง่าย ได้ดังนี้ค่ะ
“ถ้าอยากภูมิใจ ต้องใช้ความสามารถก่อน” และ “รักตัวเองให้หมดใจ ต้องรับได้ทั้งร้ายทั้งดี”
1. ถ้าอยากภูมิใจ ต้องใช้ความสามารถก่อน
หลักการง่าย ๆ ก็คือ ถ้าอยากให้ตัวเองเก่งขึ้น ดีขึ้น น่าคบมากขึ้น มีอะไรดี ๆ ให้ภูมิใจ ก็ต้องลุกขึ้นมาลงมือทำอะไรบางอย่างให้สำเร็จค่ะ เราไม่สามารถจะนั่งคิดและมั่นใจไปผิด ๆ ว่าตัวเองเจ๋งอย่างนั้นอย่างนี้ทั้งที่ไม่จริงได้ เสียเวลาเปล่า ๆ ถ้าอยากพัฒนาตัวเองให้มีอะไรดีเด่นมากขึ้นก็ต้องฝึกฝนลงมือทำ เริ่มต้นง่าย ๆ ค่ะ
ถามตัวเองว่า เรามีจุดแข็งอะไร เราถนัดอะไร มันต้องมีสักอย่างสองอย่างสิน่า เจียวไข่ก็ได้ เล่นเกมออนไลน์ก็ได้ อะไรก็ได้ แค่ต้องเอาดีให้ได้
ลุกขึ้นมาลงมือทำสิ่งนั้น ความสำเร็จมักจะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก ก็มันเป็นงานที่เราถนัดนี่นา จริงมั้ยคะ
“ผมชอบเล่นเกม เอาดีทางนี้ก็ได้ใช่มั้ยครับอาจารย์” เอ้า… เอาเลยค่ะ ให้เป็นแชมป์ไปเลย ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเช่นกัน เพราะประเด็นสำคัญอยู่ที่การประสบความสำเร็จค่ะ สิ่งนี้แหละจะทำให้เราภูมิใจในตัวเองมากขึ้นและเห็นว่าเราก็มีดีเหมือนกันนะ การเห็นคุณค่าของตัวเองนั้นมีโครงสร้างที่ง่ายมาก ๆ ก็คือ เมื่อใดที่นึกถึงตัวเองขึ้นมา เราก็ควรจะรู้สึกดี เช่น มั่นใจ ภูมิใจ ดีใจที่เราเป็นตัวเองแบบนี้ รู้สึกยอมรับและไม่รังเกียจ เป็นต้น เพราะฉะนั้น เราจึงต้องเชื่อมโยงตัวเราเองเข้ากับสิ่งดี ๆ เช่น การประสบความสำเร็จในอะไรสักอย่าง เมื่อทำได้แล้วเมื่อใดก็ตามที่เรานึกถึงตัวเอง ความรู้สึกภูมิใจก็จะเกิดตามมา คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรปกป้องประคบประหงมลูกจนเกินไปไม่ยอมให้หยิบจับทำอะไรที่ลำบากเลย เพราะเขาจะไม่เคยได้พบว่าตัวเองทำได้ และไม่เคยได้เกิดความภูมิใจในตัวเองค่ะ
2. รักตัวเองให้หมดใจ ต้องรับได้ทั้งร้ายทั้งดี
“อาจารย์ครับ แต่กว่าจะได้เป็นแชมป์เกม ก็แพ้อยู่ตลอด ๆ แล้วเมื่อไรจะภูมิใจในตัวเองได้สักทีล่ะครับ” หนทางสู่ความสำเร็จในเรื่องต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่มักจะไม่ง่าย เราน่าจะต้องแพ้ ผิดพลาด ต้องอด หรือทำไม่ได้ดีมาก่อน หรือเราอาจจะพบว่าตัวเองมีจุดอ่อนหรือไม่ได้เรื่องในบางเรื่อง
งานวิจัยทางจิตวิทยาสมัยใหม่เสนอว่า การเห็นคุณค่าของตนเองที่แท้จริง คือ การยอมรับและให้ความเมตตาแก่ตัวเอง โดยเฉพาะในจุดอ่อนหรือข้อด้อยของเรา ไม่มีใครดีไปหมดทุกอย่าง แล้วทำไมเราจึงจะคาดหวังให้ตัวเองไม่มีข้อด้อยอะไรเลย? ดิฉันเองเป็นคนขี้ลืมอย่างร้ายกาจจนทำให้เสียการเสียงานมาแล้ว นึกถึงทีไรก็เจ็บแปล๊บที่หัวใจ และกังวล เบื่อตัวเองและรู้สึกว่าเราไม่ได้เรื่อง แต่หากเรามองตัวเองด้วยความเมตตาและให้อภัย เราจะเห็นได้ไม่ยากว่า เราก็เป็นมนุษย์เดินดินคนหนึ่ง ย่อมจะมีข้อด้อยข้อผิดพลาดได้ การตระหนักดังนี้น่าจะช่วยให้เรายอมรับตัวเองทั้งร้ายและดีอย่างที่เราเป็น ได้ไม่ยากค่ะ แหม… เวลามีแฟน เราทุกคนก็มักจะหวังให้เขารักเราในแบบที่เราเป็น แล้วตัวเราเองละคะ ทำไมถึงรับตัวเองไม่ได้
เมื่อเราสามารถยอมรับตนเองทั้งร้ายและดีได้แล้ว ความสำเร็จหรือความล้มเหลวที่เกิดขึ้นในชีวิตก็จะไม่สามารถทำอะไรเราได้มาก เพราะแม้ประสบความสำเร็จเราก็รักตัวเอง แม้ล้มเหลวเราก็ยังรักตัวเองในแบบที่เป็น แบบนี้จึงจะเป็นการเห็นคุณค่าในตัวเองที่คงทนยืนยาวค่ะ
อ่านจบแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนในกระจกด้วยนะคะ ^v^
รายการอ้างอิง
บทความวิชาการ
โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัชราภรณ์ บุญญศิริวัฒน์
Faculty of Psychology, Chulalongkorn University