จิตวิทยากับการพยากรณ์โชคชะตา

07 Mar 2022

ข้อค้นพบจากวิทยานิพนธ์ คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เหตุผลของคนดูดวง และบทบาทของนักพยากรณ์ในการช่วยเหลือด้านจิตใจ

 

 

 

 

: ข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกนักพยากรณ์โชคชะตา 9 คน และผู้รับบริการ 7 คน โดยใช้แหล่งการพยากรณ์โชคชะตาหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร

 

ลักษณะของสัมพันธภาพในการพยากรณ์โชคชะตาเป็นแบบการให้คำปรึกษาแนะนำ (guidance) ซึ่งแตกต่างจากการปรึกษาเชิงจิตวิทยา (counseling) ที่มีสัมพันธภาพในเชิงบำบัด (therapeutic relationship) ทั้งนี้สัมพันธภาพในการพยากรณ์โชคชะตามีจุดเริ่มต้นจากความต้องการคำตอบจากการพยากรณ์โชคชะตาเป็นจุดประสงค์หลัก กล่าวคือ สาเหตุที่ผู้รับบริการเลือกเข้าหานักพยากรณ์โชคชะตาเพราะต้องการที่พึ่งทางใจในคราวทุกข์ ต้องการทราบอนาคตเพื่อลดความกังวล ต้องการเติมเต็มความมั่นใจในการตัดสินใจ หรือต้องการทราบแนวทางในการดำเนินชีวิต อีกทั้ง ยังต้องการหลีกเลี่ยงการถูกตีตรา ส่งผลให้ผู้รับบริการเลือกใช้การพยากรณ์โชคชะตาแทนการเข้าหานักจิตวิทยาหรือจิตวิทยา นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่ต้องการ “ลองของ” อีกด้วย

 

รูปแบบสัมพันธภาพในการพยากรณ์โชคชะตาที่พบเห็นในสังคมไทย มี 3 รูปแบบ คือ

 

  1. มีความสนิทสนมคุ้นเคยดุจญาติพี่น้อง ซึ่งเป็นรูปแบบที่เกิดจากการไปมาหาสู่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันบ่อยครั้ง
  2. เป็นที่พึ่งที่ปรึกษา เป็นรูปแบบภาวะการพึ่งพานักพยากรณ์ มองว่าเป็นผู้ชี้แนะแนวทางการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต
  3. เป็นเพียงผู้รับบริการ หรือคนแปลกหน้าที่ให้มาระบายปัญหาเท่านั้น

 

ไม่ว่าสัมพันธภาพจะอยู่ในรูปแบบใด ถ้าเป็นสัมพันธภาพที่ดีก็นำไปสู่การช่วยเหลือด้านจิตใจได้

ทั้งนี้ปัจจัยสู่สัมพันธภาพที่ดีในการพยากรณ์โชคชะตาประกอบด้วย

 

  • การพยากรณ์ที่แม่นยำ
  • การประพฤติตามจรรยาบรรณโหร (มีคุณธรรม จริงใจ ไม่ฉกฉวยผลประโยชน์)
  • การรักษาความลับของผู้รับบริการ
  • การเปิดใจยอมรับผู้รับบริการ ไม่ตัดสินถูกผิด ซึ่งผลที่เกิดจากการมีสัมพันธภาพที่ดีคือเกิดความไว้วางใจ เกิดศรัทธา ให้ความเคารพนับถือ ยินดีเปิดเผยเรื่องราว กลับมาใช้บริการอีก และแนะนำบอกต่อแก่ผู้อื่น

ทั้งนี้ในทางการปรึกษาเชิงจิตวิทยามองว่า ารที่ผู้รับบริการเกิดความไว้วางใจจนนำมาสู่การเปิดเผยเรื่องราวเป็นสิ่งสำคัญอันนำไปสู่การช่วยเหลือที่ตรงประเด็นและมีประสิทธิภาพ กระนั้น ในบางแง่มุมการเกิดความรู้สึกด้านลบเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ทั้งนี้การมีสัมพันธภาพที่มากหรือน้อยจนเกิดไป ไม่ไว้วางใจ หรือเกินขอบเขตที่เหมาะสม ย่อมไม่ส่งผลที่ดีต่อทั้งนักพยากรณ์โชคชะตาและผู้รับบริการ

.

 

 

กระบวนการช่วยเหลือด้านจิตใจของนักพยากรณ์โชคชะตา

 

 

 

 

ขั้นตอนในกระบวนการช่วยเหลือด้านจิตใจของนักพยากรณ์โชคชะตาเริ่มจากการสังเกตท่าทางของผู้รับบริการเพื่อประเมินความรู้สึกนึกคิด และวัดระดับอารมณ์ในการออกคำพยากรณ์ จากนั้นทำการพยากรณ์ตามหลักของศาสตร์ และในระหว่างการพยากรณ์จะมีการเปิดโอกาสให้ซักถามเพื่อเติมในส่วนที่ยังคงรู้สึกสงสัยหรือค้างคาใจเพื่อให้ผู้รับบริการขจัดความกังวลใจได้อย่างเต็มที่ และมักลงท้ายด้วยการเสนอแนะแนวทางการช่วยเหลือด้านจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่อิงบทฐานของความเชื่อในศาสตร์การพยากรณ์โชคชะตา

 

การให้คำปรึกษาของนักพยากรณ์โชคชะตาเป็นแบบการให้คำแนะนำและชี้นำทาง ซึ่งต่างจากจิตวิทยาการปรึกษาที่เป็นแบบไม่ชี้นำ ซึ่งการชี้นำนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้รับบริการเกิดการใคร่ครวญและตระหนักรู้ในตนเองอย่างแท้จริง ดังนั้นเมื่อผู้รับบริการเกิดปัญหาครั้งใหม่ ผู้รับบริการจะกลับมาใช้บริการกับนักพยากรณ์โชคชะตาอีก ในขณะที่การปรึกษาเชิงจิตวิทยามีวัตถุประสงค์ให้ผู้รับบริการเกิดปัญญาในการแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง และไม่จำเป็นต้องย้อนกลับมาปรึกษานักจิตวิทยาอีก

ทั้งนี้แนวทางการช่วยเหลือที่นักพยากรณ์โชคชะตามักเสนอแนะให้แก่ผู้รับบริการเป็นสิ่งที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความคิด ความเชื่อ ทัศนคติ ค่านิยม ที่นักพยากรณ์โชคชะตาผู้นั้นยึดถืออยู่ กล่าวคือหากเป็นบุคคลที่นับถือพุทธศาสนาก็จะมีความเชื่อเรื่องกรรม และมองการพยากรณ์โชคชะตาเป็นศาสตร์ที่มีความเชื่อมโยงกับการกระทำในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ฉะนั้นแนวทางที่เสนอแนะจึงอยู่ในรูปของการให้กระทำดี สร้างบุญสร้างกุศลหรือให้ปฏิบัติธรรม หรือแม้แต่ในรายที่มีความเชื่อมั่นในศาสตร์การพยากรณ์โดยเฉพาะ ก็มักเสนอแนวทางการช่วยเหลือด้านจิตใจที่อิงกับดวงดาวทางโหราสาสตร์ เป็นต้น ดังนั้นหากผู้รับบริการที่ได้รับการเสนอแนะแนวทางจากนักพยากรณ์โชคชะตามีความเชื่อเช่นเดียวกัน ย่อมส่งผลให้ภาวะใจของผู้รับบริการมีความผ่อนคลายในเบื้องต้น

 

กลไกที่เกิดในกระบวนการช่วยเหลือด้านจิตใจด้วยการพยากรณ์โชคชะตา สามารถจัดเป็นผลที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม กล่าวคือการได้ระบายเรื่องราวปัญหา และการได้ทราบเหตุการณ์ล่วงหน้าเป็นการเตรียมใจ เป็นผลพลอยได้จากการพยากรณ์โชคชะตา ซึ่งวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของผู้รับบริการ คือการต้องการทราบอนาคตโดยมีความเชื่อว่าการพยากรณ์โชคชะตาเป็นศาสตร์ที่สามารถให้คำตอบตนได้ นอกจากการได้ทราบคำตอบพร้อมแนวทางการแก้ไขแล้ว ความเชื่อมั่นใจอนาคตที่ได้จากคำพยากรณ์เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้รับบริการมีความหวังในการก้าวผ่านปัญหาหรืออุปสรรคที่ตนกำลังเผชิญ

 

 

จากข้อค้นพบที่ได้ทำให้เข้าใจมูลเหตุความต้องการของผู้รับบริการและกระบวนการช่วยเหลือด้านจิตใจที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ในการพยากรณ์โชคชะตา ดังนั้นในการปรึกษาเชิงจิตวิทยา หากนำความเข้าใจดังกล่าวไปใช้จะสามารถเข้าถึงผู้รับบริการได้กว้างขวางและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

 


 

 

 

รายการอ้างอิง

 

“การพยากรณ์โชคชะตาและกระบวนการช่วยเหลือด้านจิตใจ”

“Fortune telling and psychological helping process”

วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม.) สาขาวิชาจิตวิทยาการปรึกษา คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2552)

โดย นางสาวเรวดี สกุลอาริยะ

ที่ปรึกษา ผศ. ดร.กรรณิการ์ นลราชสุวัจน์

วิทยานิพนธ์ฉบับเต็ม http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/17082

แชร์คอนเท็นต์นี้